- TOKYO
- AKITA
LUX SUBURB
หลังจากที่เพลิดเพลินอย่างเต็มอิ่มกับทัศนียภาพของโตเกียวแบบ 360 องศา จากโตเกียวซิตี้วิวแล้ว เดินทางไปจังหวัดอาคิตะเพื่อสัมผัสกับคามารุระ “บ้าน” ที่ทำจากหิมะ เป็นการเดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่างอันน่าตื่นเต้นโดยสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองและเทศกาลแบบดั้งเดิม
Official Tokyo Travel Guide
https://www.gotokyo.org/th/
Local government official website
http://www.akitafan.com/th/first
นักท่องเที่ยว
- Traveled : February, 2017 Dean Wormald
ที่อยู่อาศัย:ประเทศออสเตรเลีย
- Traveled : February, 2017 Ebony Bizys
- นักออกแบบ ช่างภาพ และบล็อกเกอร์
ที่อยู่อาศัย:ออสเตรเลีย / ลิทัวเนีย
สถานที่เกิด:
ท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ
ANA880 ตรวจสอบวิธีการเดินทางจากประเทศของตนเอ
-
- Dean Wormald
<เที่ยวบิน>
เที่ยวบินไปยังโตเกียวดีมาก การเช็คอินเป็นไปอย่างง่ายดาย เที่ยวบินตรงเวลา และที่นั่งก็นั่งสบาย อาหารบนเครื่องบินรสชาติดี ภาพยนตร์และเกมบนเครื่องบินก็ดีเช่นกัน
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
นาริตะเอ็กซ์เพรส
ภายในกรุงโตเกียว
วันแรก
TOKYO
โทมิกะยะmore

โทมิกะยะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่อยู่ตรงกลางของทิศตะวันออกของเขตชิบุยะ ถูกเรียกว่า "โอะคุชิบุยะ" มีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีร้านอาหารและร้านกาแฟกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เป็นพื้นที่ที่รวบรวมความนิยมไว้อย่างเงียบๆ และยังอยู่ใกล้สวนสาธารณะโยโยงิ
-
- Dean Wormald
<สวนโยโยงิ>
มีนักท่องเที่ยวมากมายได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่และสวนแห่งนี้ยังเหมาะสำหรับการเดินเล่นสบายๆ ในวันที่อากาศดี แม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูกาลดอกซากุระหรือดอกกุหลาบบานก็ตาม<โทมิกายะ・โอกุชิบุยะ>
ย่านแห่งนี้น่าสนใจมาก ผมเคยไปชิบุยะและสวนโยโยงิมาแล้ว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีย่านนี้ด้วย ผมได้ไปเที่ยวชมร้านขนมและของทานเล่น ร้านหนังสือเก๋ๆ และคาเฟ่ธีมชายหาดบอนดิ การได้ค้นพบย่านแห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ -
- Ebony Bizys
<โทมิกายะ・โอกุชิบุยะ>
เนื่องจากเป็นสถานที่ที่คล้ายคลึงกับชิบูยะ ชินจูกุ ฮาราจูกุ และชิโมคิตะซาวะ โทมิกายะจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในสถานที่นอกเมืองที่ฉันชอบที่สุดในโตเกียว ย่านนี้จะเรียงรายไปด้วยคาเฟ่น่ารักๆ ร้านขนมปัง บาร์ ร้านหนังสือ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารต่างๆ มากมาย ทำให้คนญี่ปุ่นเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "สุมิยามิสุอิ" หรือ "อยู่ง่าย" นั่นเอง ฉันนึกภาพออกเลยว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วแค่ไหนเมื่อคุณได้มาเที่ยวชมในย่านโทมิกายะแห่งนี้
โตเกียวเมโทร สายชิโยดะ
สถานีโยโยงิโคเอ็น→สถานีคอคไคกิจิโดมาเอะ
โตเกียวเมโทร สายนัมโบกุ
สถานีทาเมอิเกะซันโน→สถานีอาซาบุจูบัง
20นาที
อาซาบุจูบังmore

อาซาบุจูบังเป็นทั้งพื้นที่ที่มีนักเที่ยวชาวต่างชาติและชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก , ใกล้กับรปปงหงิ และยังคงหลงเหลือบรรยากาศของชิตะมาจิ (ดาวน์ทาวน์) ร้านค้าในอาซาบุจูบังมีทั้งร้านใหม่และร้านที่มีประวัติศาสตร์ผสมผสานกันอยู่ หากไปเดินเล่นจะไม่เบื่อเลย
-
- Dean Wormald
<อาหารกลางวัน: จูบัน-อิจิโคโระ>
ราเมนไก่ของที่นี่ทำเอาผมทึ่งไปเลย! จูบัน อิจิโคโระให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและบรรยากาศภายในร้านที่เหมือนอยู่บ้าน ถ้าคุณเลือกที่จะนั่งโต๊ะนะ ลูกค้าผู้หิวโหยที่มาซัดราเมนเป็นอาหารกลางวันกันตรงเคาน์เตอร์บาร์นั่นก็ดูจะเอร็ดอร่อยกันมากทีเดียว<อาซาบุจูบัง>
ถนนสายด้านหลังของรปปงงิคือย่านอาซาบุจูบัง ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ นับตั้งแต่ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยาไปจนถึงสินค้าราคาแพง มีตั้งแต่ขนมและลูกกวาดต่างๆ ไปจนถึงสินค้าแฟชันชั้นสูง -
- Ebony Bizys
<อาหารกลางวัน: จูบัน-อิจิโคโระ>
ในขณะที่ราเมนส่วนใหญ่ในโตเกียวจะทำมาจากน้ำซุปหมู ที่นี่คุณจะได้ลิ้มลองราเมนที่ทำมาจากน้ำสต็อคไก่ เพียงแค่ซื้อตั๋วราเมนจากเครื่องจำหน่ายตั๋ว ยื่นให้กับพนักงานของอิจิโกโระ และนั่งรอสักครู่ คุณก็จะได้รับประทานราเมนร้อนๆ รสชาติกลมกล่อม เสน่ห์ของอิจิโกโระส่วนหนึ่งอยู่ที่คุณภาพที่เชื่อถือได้ บริการที่รวดเร็ว และสั่งอาหารได้ง่าย ว่าแต่ฉันบอกไปหรือยังว่าที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วยนะ<อาซาบุจูบัง>
อาซะบุ จูบันเป็นย่านที่เป็นที่นิยมทั้งในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ในช่วงฤดูร้อน ถนนสายหลักจะเรียงรายไปด้วยแผงร้านค้าที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มของท้องถิ่น ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถหาซื้อวัตถุดิบของอาหารตะวันตกได้จากที่นี่เท่านั้น แต่ยังสามารถหาซื้อขนมขบเคี้ยวของญี่ปุ่นอย่างเซ็นเบ้ (ข้าวเกรียบญี่ปุ่น) หรือไทยากิ (ขนมเค้กรูปปลาสอดไส้) ได้อีกด้วย
เดิน
15นาที
โตเกียวซิตี้วิว หอสังเกตการณ์ more
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

โตเกียวซิตี้วิว คือสถานที่รับชมทัศนียภาพ “สกายเด็ค” ที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 270 เมตรและมีส่วนทางเดินภายในสูงจากระดับน้ำทะเล 250 เมตรซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ทำให้สามารถมองเห็นแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของโตเกียว อาทิ โตเกียวทาวเวอร์ โตเกียวสกายทรี รวมถึงในวันที่อากาศเป็นใจก็สามารถมองเห็นไกลถึงภูไขไฟฟูจิเลยทีเดียยว “สกายเด็ค” ช่วงเวลาพิเศษที่จะปล่อยอารมณ์ไปกับสายลมและท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
-
- Dean Wormald
<พิพิธภัณฑ์โมริ>
นิทรรศการน่าตื่นตาตื่นใจมาก เป็นงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ทั้งศิลปะแนวทดลอง ภาพวาด รูปปั้นแกะสลัก วิดีโอ จิตรกรรมฝาผนัง และอีกมากมาย รวมทั้งตัวสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์เองก็สวยงามน่าทึ่งเช่นกัน<โตเกียวซิตี้วิว หอสังเกตการณ์ >
ที่โตเกียวซิตี้วิว หอสังเกตการณ์ ในรปปงงิ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพของกรุงโตเกียวในมุมมองที่แตกต่างออกไปได้ จากดาดฟ้าชมวิวแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ที่สวยงาม รวมถึงภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งอยู่ไกลออกไปนอกเมือง และวิวจากดาดฟ้าแห่งนี้จะสวยที่สุดในเวลาพระอาทิตย์ตกดิน<อาหารเย็น:โซโกะ>
อาหารเย็น 10 คอร์สที่โซโกะถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างพิถีพิถันและสวยงาม เชฟจะนำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะและอธิบายเมนูแต่ละจานอย่างละเอียด บรรยากาศในร้านเงียบสงบ ส่วนอาหารก็น่าทึ่งทั้งในเรื่องของหน้าตาและรสชาติ -
- Ebony Bizys
<พิพิธภัณฑ์โมริ>
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สุดโปรดของฉันในโตเกียว พิพิธภัณฑ์โมริเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเดินชมสัก 2-3 ชั่วโมง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงนิทรรศการของทั้งศิลปินชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ<โตเกียวซิตี้วิว หอสังเกตการณ์>
โตเกียวซิตี้วิว หอสังเกตการณ์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมท้องฟ้าของกรุงโตเกียว ดาดฟ้าที่เปิดรับลมแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปสวยๆ ของกรุงโตเกียวไว้ทำโปสการ์ด เป็นอีกวิธีที่ทำให้ได้เห็นว่าโตเกียวนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน<อาหารเย็น:โซโกะ>
สำหรับมือค่ำในเย็นวันนั้น เราได้ไปรับประทานอาหารแบบคอร์สกันที่โซโกะ ซึ่งเป็นร้านอาหารมังสวิรัติแห่งหนึ่งในอาซาบุจูบัง แต่ละเมนูถูกจัดไว้ในจานเซรามิกแบบญี่ปุ่นนั้นสวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา หนึ่งในนั้นได้แก่ชามคินสึกิ ที่มีความประณีตงดงาม (ศิลปะการซ่อมแซมจานเซรามิกที่แตกด้วยแผ่นทองคำ จนทำให้จานออกมาสวยงามยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่แตกเสียอีก)
โตเกียวเมโทร สายฮิบิยะ
สถานีรปปงหงิ → สถานีฮิบิยะ
20 นาที
remm HIBIYA
-
- Dean Wormald
<ที่พัก: โรงแรมเร็มฮิบิยะ>
โรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับผ่อนคลายหลังจากชมเมืองโตเกียวมาทั้งวัน ห้องพักของที่นี่เงียบสงบและตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ที่ตั้งของโรงแรมสะดวกสำหรับการเดินทางบนสายยาโมโนเตะและรถไฟใต้ดิน สิ่งที่น่าสนใจแถวๆ โรงแรมก็คือตรอกซอกซอยที่อยู่รอบๆ สถานียูราคุโจ ซึ่งจะเต็มไปด้วยโปสเตอร์แนวเรโทร กลุ่มควันที่ลอยมาจากในครัว และคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มานั่งดื่มกันในบาร์เล็กๆ และในร้านอาหาร -
- Ebony Bizys
<ที่พัก: โรงแรมเร็มฮิบิยะ>
โรงแรมเร็มเป็นโรงแรมตามมาตรฐานของญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮิบิยะ เมื่อคุณมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ และเข้าพักที่โรงแรมลักษณะนี้ คุณมักจะได้รับการต้อนรับในรูปแบบที่คล้ายๆ กัน ได้แก่ มีชุดยูกาตะวางเตรียมไว้บนเตียง ชาเขียว และชาอุเมะ (พลัม) ในถ้วยชา ร้องเท้าแตะแบบทิ้งได้ และขวดน้ำยาปรับกลิ่นผ้าที่แขวนไว้ในตู้ ห้องพักมักจะสะอาด เรียบร้อย และเรียบง่าย
วันที่สอง
TOHOKU(AKITA)
7:55 ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวmore

เป็นประตูเข้าออกทางอากาศของโตเกียว ภายในอาคารผู้โดยสารเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์มากมาย สามารถชมทิวทัศน์ของอ่าวโตเกียวได้จากจุดชมวิวบนดาดฟ้า ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้โดยสารที่จะเดินทางก็สามารถเพลิดเพลินได้
-
- Dean Wormald
<เที่ยวบิน>
การเดินทางไปยังสนามบินฮาเนดะใช้เวลาเพียงนิดเดียวด้วยรถไฟ JR และต่อด้วยรถไฟแม็กเลฟไปยังสนามบิน (รถไฟวิ่งถี่มาก!) เที่ยวบินเองก็เต็มไปด้วยบรรดานักธุรกิจ เป็นเที่ยวบินที่ดีเลยทีเดียว วิวระหว่างที่เครื่องบินกำลังลงจอดที่อาคิตะนั้นสวยงามมาก สามารถมองเห็นเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นสนและหิมะ -
- Ebony Bizys
<เที่ยวบิน>
การเดินทางจากโรงแรมเร็มไปยังสนามบินฮาเนดะ เที่ยวบินภายในประเทศโดยรถไฟและรถไฟรางเดี่ยวนั้นใช้เวลาไม่นาน และด้วยความที่รถไฟวิ่งวนเป็นเข็มนาฬิกา คุณจึงสามารถเดินทางไปถึงสนามบินได้โดยไร้ความกังวล
เที่ยวบินเช้าของสายการบิน ANA จากโตเกียวไปยังอาคิตะนั้นเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 747 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหรูเลยทีเดียวที่ได้นั่งเครื่องบินไซส์จัมโบ้สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เที่ยวบินนี้ค่อนข้างโล่ง ผู้โดยสารจึงมีพื้นที่ไว้พักผ่อนค่อนข้างมากในระหว่างเที่ยวบินที่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เที่ยวบินระหว่างอาคิตะกับโตเกียวไม่มีอาหารเสิร์ฟ ดังนั้นอย่าลืมซื้อโซระเบ็น (เบ็นโตะสำหรับทานบนเครื่องบิน) จากสนามบินก่อนขึ้นเครื่องล่ะ
ANA401 (ANA Experience JAPAN Fare) ดูรายละเอียด
9:00 สนามบินอาคิตะmore

สนามบินอาคิตะ เป็นสนามบินประเภทสวนสาธารณะของเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองอาคิตะประมาณ 25 กิโลเมตรเส้นทางการบินในประเทศคือ โตเกียว , ซับโปโร , นาโกย่า และโอซาก้าที่เป็นเที่ยวบินปกติ (ปัจจุบันได้ระงับเที่ยวบินปกติไปโซล)การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีบริการโนริไอแท็กซี่ (แท็กซี่แบบแชร์กัน) ที่ใช้บริการได้ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปที่ “อะ เอ-รุ” ลานขายของที่ระลึก ภายในร้านที่ให้ความรู้สึกถึงความอ่อนโยนของไม้สนอาคิตะจะช่วยสร้างเวลาของการช้อปปิ้ง มีสินค้าหลากชนิดอย่างครบครันซึ่งนอกจากจะมีสินค้าของสนามบินแล้ว ยังมีวัตถุดิบปรุงอาหารตามฤดูกาลและสาเกจากโรงกลั่นสาเก เป็นต้น
แอร์พอร์ตไลเนอร์ คุริโคมะโก (แท๊กซี่ที่นั่งรวมกับผู้โดยสารคนอื่น)
90นาที
พิพิธภัณฑ์มาสึดะมังกะ เมืองโยโกเตะmore

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีธีมเป็น "มังงะ (การ์ตูน) แห่งแรกของญี่ปุ่นจัดแสดงนิทรรศการแนะนำต้นฉบับ , ผลงานและอะนิเมชั่นต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นผลงานหลากหลายที่เป็นที่รู้จักของยากุชิ ทาคาโอะ ที่เกิดที่เมืองโยโกเตะ เช่น "ซุริคิชิซัมเป"และนักเขียนที่มีชื่อเสียงทั้งภายในและต่างประเทศประมาณ 100 คน มีการจัดนิทรรศการพิเศษ (เก็บค่าเข้าชม) หลายครั้งต่อปี ซึ่งมีแฟนจำนวนมากจากทั้งในและต่างประเทศมาเยี่ยมชม
-
- Dean Wormald
<ซาโต้ โยสุเกะ>
ความหนาวเย็นและหิมะทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้น่าประทับใจยิ่งขึ้น เราเข้าไปเยี่ยมชมภายในโกดังแบบชนบท ร้านขายของเก่าต่างๆ รวมถึงโรงกลั่นสาเกเล็กๆ แห่งหนึ่ง อาคารเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นที่หลังคาปกคลุมไปด้วยหิมะนั้นสวยงามมาก<อาหารกลางวัน: ซาโต้ โยสุเกะ, อินานิวะ อุด้ง>
ที่นี่คือจุดหมายปลายทางแห่งแรกของเราหลังจากลงเครื่องที่สนามบิน หลังจากได้รับการต้อนรับอย่างเป็นมิตรจากโรงงานเส้นอุด้งแล้ว เราก็ได้มีโอกาสเข้าไปชมภายในโรงงาน การทัวร์โรงงานครั้งนี้ให้ความรู้แก่เรามากมาย เนื่องจากเราได้เห็นพนักงานในขณะที่ลงมือปฏิบัติงานกันจริงๆ หลังจากชมโรงงานเสร็จแล้ว ผมก็ได้ลงมือทำเส้นอุด้งด้วยตัวเองอีกด้วย! จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ร้านอุด้งของโรงงานแห่งนี้และรับประทานเส้นอุด้งอันแสนอร่อยที่เสิร์ฟคู่กับเทมปุระ พร้อมทั้งชมหิมะที่กำลังตกด้านนอกไปด้วย<เดินเล่นรอบมาสึดะ พิพิธภัณฑ์มาสึดะมังกะ อุจิกุระแห่งมาสึดะ>
ที่นี่เป็นสถานที่ที่กำลังได้รับความนิยมในฐานะ "หมู่บ้านที่เป็นชั้น" ชั้นของอาคารที่ทำขึ้นแบบบิลด์อินคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ สิ่งที่น่าทึ่งก็คือชั้นเหล่านั้นซึ่งอยู่ภายในไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก -
- Ebony Bizys
<ซาโต้ โยสุเกะ>
เมื่อลงเครื่องที่สนามบินอาคิตะแล้ว เราก็รีบบึ่งไปเที่ยวชมโรงงานทำเส้นอุด้งซาโต้ โยสุเกะทันที พวกเราได้เข้าร่วมหลักสูตรวิธีการทำอุด้งแบบง่ายๆ และได้ลงมือทำจริงๆ ด้วย<อาหารกลางวัน: ซาโต้ โยสุเกะ, อินานิวะ อุด้ง>
เราได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติของเท็มปุระอินานิวะอุด้งที่ซาโต้ โยสุเกะสาขาใหญ่ อุด้งเส้นเล็กรสชาติอร่อยกับน้ำซุปรสซอสถั่วเหลืองโปะด้วยมิตสึบะสับละเอียดนั้นช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้ดีหลังจากที่ต้องอยู่ท่ามกลางหิมะอันสวยงามแต่เหน็บหนาวของเมืองอาคิตะ<เดินเล่นรอบมาสึดะ พิพิธภัณฑ์มาสึดะมังกะ อุจิกุระแห่งมาสึดะ>
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้ออกไปเดินเล่นรอบๆ ย่านมาสึดะท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา และแวะเข้าไปชมอุจิกุระซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของประวัติศาสตร์ผ่านสถานปัตยกรรมเก่าแก่ของมาสึดะ ฉันรู้สึกหลงใหลในอาคารที่สร้างขึ้นในสมัยโชวะที่มีป้ายเก่าๆ ซีดๆ และดูมีความเรโทรเป็นพิเศษ
พิพิธภัณฑ์มาสึดะมังกะไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับซึมซับวัฒธรรมของการ์ตูนมังงะเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปสู่สวนสนุกในยุคเก่า เครื่องเบาะสีแดงสดใสและสีฟ้านั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นพื้นหลังของมังงะอาคิระ
เดิน
ประมาณ 10 นาที
ทิวทัศน์ของเมืองมาสึดะmore

เมืองมาสึดะตั้งอยู่ที่แม่น้ำนารุเสะกับแม่น้ำมินาเสะมาบรรจบกัน เป็นจุดขนส่งที่สำคัญที่พัฒนามาแต่อดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงไหม , ยาสูบและเหมืองแร่ที่เจริญรุ่งเรืองในเมืองมาสึดะของถนนชูนานูกะมาชิ ด้านในของบ้านหลักที่ด้านหน้าแคบแต่ยาวมาก ภายในตัวบ้านที่กว้างขวางโอ่อ่ายังหลงเหลืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ถูกกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์อาคารแบบดั้งเดิมที่สำคัญของประเทศเมื่อเดือนธันวาคม ปีค.ศ.2013 บนถนนมีโรงกลั่นสาเกที่มีประวัติการก่อตั้งมานานกว่า 300 ปี
รถบัสอุโกะโคซู สายโยโกเทะ ・โอะยาสุ
ยทสึยะสุมิ→ โยโกเทะบัสเทอร์มินัล
ประมาณ 30นาที
คามาคุระmore
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

เดิม "คามาคุระ" เป็นการนำเอาสิ่งของมาบูชาแก่เทพเจ้าแห่งน้ำที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า ที่หน้าคามาคุระกว่า 100 หลังที่ถูกสร้างขึ้นภายในตัวเมืองโยโกเตะในวันที่ 15,16 เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีซึ่งถือว่าเป็นวันปีใหม่ทางจันทรคติ เด็กๆจะมาพูดเชิญชวนว่า "ไฮเตะตันเส (ขอเชิญเข้าไปในคามาคุระ)"พร้อมกับแจกอะมาสาเกและโมจิ
-
- Dean Wormald
<คามาคุระที่หมู่บ้านมินคะเอ็นคิโดะโกโรเบ>
เป็นจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวในคามาคุระที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ นักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่าไรนัก และสามารถเข้าถึงคามาคุระได้ดีกว่า ที่นี่มีชุดกระโปรงแบบดั้งเดิมจัดแสดงอยู่และมีการต้อนรับแขกตามแบบฉบับของคามาคุระ จากนั้นเราก็ได้มีโอกาสเข้าไปในบ้านโบราณและนั่งผิงไฟกับเตาผิงพลางจิบชาอุ่นๆ ไปพร้อมกับทานขนมขบเคี้ยว ก่อนจะออกจากที่นี่ผมได้สำรวจบริเวณสวน ซึ่งในนั้นมีศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทชะที่ขึ้นชื่อของเมืองเกียวโตอีกด้วย -
- Ebony Bizys
<คามาคุระที่หมู่บ้านมินคะเอ็นคิโดะโกโรเบ>
สิ่งที่ฉันชอบที่สุดในการมาเที่ยวที่อาคิตะคือการได้ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านมินคะเอ็นคิโดะโกโรเบ ซึ่งมีการจัดแสดงคามาคุระ
คามาคุระถูกจัดแสดงไว้ร่วมกับเศษผ้า เบาะ เครื่องครัว และเครื่องแขวนตกแต่งที่สอดเข้าไปในบ้านน้ำแข็งเพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้สามารถนั่งด้านในคามาคุระได้ เวลา 5 โมงเย็น จะมีการเปิดไฟคามาคุระเพื่อให้ถ่ายรูปกันด้วย
เรามุ่งหน้าไปยังอาคารเก่าแก่ที่สวยงามหลังหนึ่งในหมู่บ้านและทำร่างกายให้อบอุ่นโดยการนั่งบนเสื่อทาทามิที่มีระบบทำความร้อนอยู่ใต้พื้น
เดิน
ประมาณ 10 นาที
Hotel Plaza Annex Yokote
-
- Dean Wormald
<อาหารเย็น: โรงแรมโฮเทลพลาซ่าแอนเน็กซ์โยโกเตะ>
โรงแรมแห่งนี้สวยและสงบ รวมถึงมีบ่อน้ำพุร้อนไว้คอยบริการแขกที่มาพักด้วย โรงแรมแห่งนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นที่พักในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาล<เทศกาลโยโกเตะคามาคุระ>
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า คามาคุระก็จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยแสงสี เปลวเทียน และผู้คนต่างๆ หลังจากที่ชมสถานอันเงียบสงบและไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวในอาคิตะมาทั้งวัน คามาคุระซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณรอบๆ เมืองจึงกลายเป็นงานเทศกาลที่โดดเด่นขึ้นมาทันตา เรานั่งรถโดยสารไปยังปราสาทโยโกเตะ ที่ซึ่งเราจะได้พบกับวิวยามค่ำคืนอันสวยงาม สามารถมองเห็นวิวของเมืองคามาคุระที่เหลือขนาดเล็กนิดเดียวอยู่เบื้องหน้า และปราสาทที่เปิดไฟส่องแสงอยู่เบื้องหลัง -
- Ebony Bizys
<อาหารเย็น: โรงแรมโฮเทลพลาซ่าแอนเน็กซ์โยโกเตะ>
เมื่อคุณได้เข้ามาอยู่ในอาคารหลังจากใช้เวลาทั้งวันท่ามกลางหิมะ คุณก็แทบจะไม่อยากออกไปรับอากาศเย็นๆ ภายนอกอีกเลย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ภายในโรงแรมแบบสบายๆ จึงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
เรานั่งเสื่อทาทามิและได้รับประทานซาชิมิ ผักดอง เท็มปุระ และอาหารท้องถิ่นของอาคิตะอย่างคิริทันโบ (ข้าวที่ใส่นาเบะซึ่งได้รับการปรุงสุกบนไม้เสียบเหนือเตาอบ)<เทศกาลโยโกเตะคามาคุระ>
เดินออกมาไม่ไกลจากโรงแรมที่พักเราก็ได้พบกับเทศกาลโยโกเตะคามาคุระ เทศกาลที่สนุกสนานนี้จะมีการจัดแสดงหุ่นที่ปั้นและแกะสลักจากหิมะ การจัดแสดงไฟ และคามาคุระที่จัดแสดงอยู่เรียงราย เช่นเดียวกับเทศกาลส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ที่เทศกาลนี้ก็มีตลาดตอนกลางคืนที่ขายขนมและเครื่องดื่มของญี่ปุ่นเช่นกัน เราทำร่างกายให้อบอุ่นด้วยการกระดกสาเกร้อนๆ และเดินชมเทศกาลยามค่ำคืน
วันที่สาม
Hotel Plaza Annex Yokote
-
- Dean Wormald
<รถไฟ JR>
หลังจากออกจากที่พักแต่เช้า เราก็ขนสัมภาระขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปยังเมืองอาคิตะในช่วงเวลาเร่งด่วน โชคดีที่ชั่วโมงเร่งด่วนของเมืองนี้ไม่มีผู้คนพลุกพล่านกันเท่าไรนัก -
- Ebony Bizys
<รถไฟ JR>
การเดินทางหนึ่งชั่วโมงจากโยโกเตะไปยังสถานีอาคิตะนั้นงดงามราวกับรูปภาพเนื่องจากวิวที่เห็นนั้นปกคลุมไปด้วยหิมะ
JR สายโออุฮอนเซ็น (JR EAST PASS)
โยโกเทะ→อาคิตะ
ประมาณ 1ชั่วโมง 10นาที
เดิน
ประมาณ 10 นาที
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดอาคิตะmore

เป็นการออกแบบโดยสถาปนิกที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น ทาดาโอะ อันโดะ ด้านในนอกจากจะมีการจัดแสดงการผลงานของสึกุฮารุ ฟูจิตะ จิตรกรระดับโลกแล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการ /นิทรรศการพิเศษของศิลปินอีกมากมาย ในจำนวนผลงานเหล่านั้นที่น่าสนใจคือ "อาคิตะโนะเกียวจิ (เทศกาลของอาคิตะ) เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ของสึกุฮารุ ฟูจิตะ ที่วาดขึ้นหลังจากที่ได้ไปเก็บข้อมูลที่อาคิตะมาหลายครั้ง
-
- Dean Wormald
<ตลาดเมืองอาคิตะ>
ตลาดที่ดูคับแคบทรุดโทรมแต่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ เต็มไปด้วยสินค้าเครื่องเรือนหลากสีสันของท้องถิ่น ผักผลไม้ และอาหารทะเล<พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดอาคิตะ>
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมทรงเหลี่ยมที่เป็นตัวอย่างของความงามแบบเรียบง่าย ภายนอกอาคารและทางเข้ามีการใช้ลายเส้นและลายโค้งที่ดูสะอาดตา ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงงานโดยฝีมือนักศึกษามหาวิทยาลัยในท้องถิ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจริยะและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินรุ่นใหม่ในภูมิภาค -
- Ebony Bizys
<ตลาดเมืองอาคิตะ>
ตลาดเมืองอาคิตะนั้นคราคร่ำไปด้วยผู้คนราวกับอยู่ในฮ่องกง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเลือกซื้อผัก เนื้อ ปลา เครื่องครัว และดอกไม้สด<พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดอาคิตะ>
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงภาพวาดของฟูจิตะ สึกุฮารุ ผู้ที่ถ่ายทอดชีวิตในอาคิตะในสี่ฤดูออกมาเป็นรูปภาพ ผลงานขนาดมหึมานี้ไม่ได้รับความเสียหายในระหว่างช่วงสงคราม และเป็นผลงานสำคัญของคอลเลคชั่นที่พิพิธภัณฑ์จัดแสดง
เดิน
ประมาณ 10 นาที
พิพิธภัณฑ์ตำนานพื้นบ้านเมืองอาคิตะ (เนะบุรินางาชิคัง)more

"เทศกาลคันโต"เป็นประเพณีเฉพาะของอาคิตะ ถือเป็นตัวแทนของเทศกาลของญี่ปุ่น นอกจาก "เทศกาลคันโต" แล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเอกสารที่เกี่ยวกับงานเทศกาลพื้นบ้านต่างๆยังมีมุมที่สามารถทดลองแสดงการถือคันโตได้อีกด้วย สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี
-
- Dean Wormald
<อาคารเนะบุรินางาชิคัง>
ในอาคิตะ เทศกาลคันโตคือเทศกาลที่ชาวบ้านในท้องถิ่นสามารถแสดงทักษะอันยอดเยี่ยมในการแขวนบรรดาโคมไฟมากมายไว้บนเสาไม้ไผ่
ภายในอาคารคุณจะได้เห็นทักษะของชาวบ้านในการรักษาสมดุลของเสาที่มีน้ำหนักมากเหล่านี้ให้ทรงตัวบนมือ สะโพก และศีรษะของตนได้<โรงงานอุตสาหกรรมและวัฒนธรรมของอาคิตะ มัตสึชิตะ>
หลังจากเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ซึ่งมีเสื่อทาทามิปูเรียงรายและโต๊ะเตี้ยที่ดูเรียบง่ายตั้งไว้นั้น เราก็ได้นั่งรับประทานเบ็นโตะอันแสนอร่อยกัน ผ่านไปสักพักหนึ่ง ไกด์จากโรงงานก็เข้ามาร่วมวงและอธิบายประวัติของอาคารแห่งนี้ให้พวกเราฟัง ไกด์อธิบายว่าเราจะได้รับการบริการจากไมโกะสองคน ไมโกะซึ่งสวมชุดกิโมโนที่สวยงามและแต่งหน้าทำผมอย่างพิถีพิถัน ได้ออกมาเต้นรำและร้องเพลงให้พวกเราฟัง<โรงกลั่นสาเกทาคาชิมิสุ ทัวร์คุระ>
โรงกลั่นสาเกทาคาชิมิสุ ทัวร์คุระ: ภายในการเยี่ยมชมโรงกลั่นสาเกขนาดใหญ่แห่งนี้ เราได้เห็นนิฮงชูในทุกขั้นตอนของการกลั่น และได้ลองชิมสาเกที่จากโรงงานก่อนออกไปจำหน่ายจริง เราปิดท้ายการลิ้มลองเหล้าสาเกด้วยนิฮงชูทั้งหมด สาเกที่นี่รสชาติดีมากจนพวกเราต้องซื้อกลับไปเป็นของฝากกันเลยล่ะ! -
- Ebony Bizys
<อาคารเนะบุรินางาชิคัง>
ถัดมา เราได้ไปเที่ยวชมการแสดงการถือโคมไฟคันโตะกันที่อาคารเนบุรินากาชิ นักแสดงที่ผ่านการฝึกฝนการถือโคมไฟมานั้นได้แสดงให้เห็นถึงศิลปะอันน่าทึ่งในการถือโคมไฟที่อยู่บนด้ามยาวให้สมดุล ไม่เฉพาะในมือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในเข็มขัดหรือแม้กระทั่งบนหน้าผากอีกด้วย<โรงงานอุตสาหกรรมและวัฒนธรรมของอาคิตะ มัตสึชิตะ>
อาคารแห่งนี้มีการจัดแสดงงานฝีมือแบบดั้งเดิม เช่น คานบนเพดานที่ทำมาจากไม้ท่อนเดียว ซึ่งเป็นงานฝีมือที่แทบจะไม่พบในสถาปัตยกรรมยุคปัจจุบันแล้ว หน้าต่างก็เป็นผลงานที่ทำขึ้นด้วยมือจากกระจกลายเรโทร<โรงกลั่นสาเกทาคาชิมิสุ ทัวร์คุระ>
สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนโรงงานมากกว่าโรงกลั่น โรงกลั่นทาคาชิมิสุแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นจากการที่โรงกลั่นสาเกหลายๆ แห่งรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งโรงกลั่นแห่งเดียว
รสชาติของน้ำในท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญในการกลั่นสาเก เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เราได้เริ่มต้นการทัวร์โรงงานจากการชิมน้ำที่มาจากในท้องถิ่น เราได้เห็นถังทรงสูงขนาด 5 เมตรที่บรรจุสาเกซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการกลั่น และได้ชิมสาเกที่น่าจะกลั่นใหม่ที่สุดที่เคยชิมมา โดยไกด์เป็นผู้ตักสาเกขึ้นมาจากถังโดยตรง รสชาติของสาเกนั้นสะอาดและบริสุทธิ์ และมีคุณค่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยดื่มมาเลย
เดิน
พิพิธภัณฑ์ตำนานพื้นบ้านเมืองอาคิตะ (เนะบุรินางาชิคัง) →สถานีอาคิตะ
15นาที
รถบัสลีมูซีน
สถานีอาคิตะ→สนามบินอาคิตะ
ประมาณ 35 นาที
สนามบินอาคิตะ
-
- Dean Wormald
<อาหารเย็น: สนามบินอาคิตะ>
เรารับประทานอาหารค่ำกันที่สนามบิน ซึ่งถือว่ารสชาติใช้ได้เลยสำหรับอาหารในสนามบิน ผมได้เดินชมรอบๆ สนามบินและเลือกซื้อของฝากท้องถิ่น เช่น คุกกี้รูปสุนัขอาคิตะ -
- Ebony Bizys
<สนามบินอาคิตะ>
สนามบินอาคิตะให้ความรู้สึกราวกับอยู่บ้านและมีความเป็นท้องถิ่น ที่นี่เป็นสนามบินที่คุณจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในอดีต เนื่องจากบรรยากาศที่มีเสน่ห์ เหมือนอยู่ในชนบท
ANA (ANA Experience JAPAN Fare) ดูรายละเอียด
ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว
เสียงจากนักท่องเที่ยว
ทัวร์ครั้งนี้น่าตื่นเต้นมาก ผมได้ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยว "ลับๆ" ของญี่ปุ่นหลายที่ และได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมายที่จะช่วยให้คนหันมาเที่ยวสถานที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จักกันในญี่ปุ่นมากขึ้น
- Dean Wormald
-
ที่อยู่อาศัย:ประเทศออสเตรเลีย -
งานอดิเรก
พายเรือคายัค ขี่มอเตอร์ไซค์ ตั้งแคมป์ ถ่ายภาพ
-
จำนวนครั้งที่มาประเทศญี่ปุ่น
5ครั้ง
-
เสียงจากนักท่องเที่ยว
เนื่องจากเที่ยวบินไปยังอาคิตะจากโตเกียวใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่จึงเหมาะสำหรับเป็นทริปสั้นๆ เพื่อสำรวจวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ นับตั้งแต่การได้ชมวิวของกรุงโตเกียวที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน ไปจนถึงการได้ดื่มสาเกร้อนๆ ในบ้านไม้ท่ามกลางหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่น่าเชื่อเลยว่านั่งเครื่องบินจากโตเกียวมาแค่หนึ่งชั่วโมงก็สามารถสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้
- Ebony Bizys
-
นักออกแบบ ช่างภาพ และบล็อกเกอร์
ที่อยู่อาศัย:ออสเตรเลีย / ลิทัวเนีย
สถานที่เกิด: -
ระยะเวลาที่พักอยู่ในโตเกียว
8 ป
-